เทรนด์การเที่ยวแบบเหมาหลังกำลังมาแรงสุด ๆ โดยเฉพาะในเมืองท่องเที่ยวยอดฮิตอย่าง “หัวหิน” ที่นักท่องเที่ยวแห่มาพักผ่อนกันตลอดทั้งปี พูลวิลล่าเลยกลายเป็นตัวเลือกที่หลายคนแย่งกันจอง และก็เป็นโอกาสทองของคนที่มีบ้านอยู่ในมือ! บทความนี้เราจะพาไปดู เคสจริงของเจ้าของบ้านในหัวหิน ที่ลงมือรีโนเวตบ้านธรรมดาให้กลายเป็นพูลวิลล่าน่าพัก จนสามารถสร้างรายได้แตะหลักแสนต่อเดือนแบบไม่น่าเชื่อ พร้อมแชร์ไอเดียดี ๆ และเคล็ดลับที่คุณเองก็ทำตามได้
จุดเริ่มต้นของเคสจริง
เรื่องราวความสำเร็จของพูลวิลล่าหลังนี้ เริ่มต้นจากเจ้าของบ้านชื่อ คุณพีท หนุ่มวัย 40 ต้น ๆ ที่มีบ้านพักตากอากาศอยู่แถวชานเมืองหัวหิน เป็นบ้านเดี่ยวชั้นเดียวแบบธรรมดา ๆ ขนาดประมาณ 70 ตร.วา ซึ่งเคยใช้แค่เวลาไปเที่ยวพักผ่อนกับครอบครัวปีละไม่กี่ครั้ง อยู่มาวันหนึ่งคุณพีทเริ่มตั้งคำถามกับตัวเองว่า… “บ้านหลังนี้น่าจะทำประโยชน์ได้มากกว่านี้นะ” และนั่นก็คือจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนบ้านธรรมดาให้กลายเป็นพูลวิลล่าทำเงินแบบจริงจัง!
เป้าหมายของคุณพีท คือ
- อยากให้บ้านที่มีอยู่แล้ว “สร้างรายได้” ไม่ปล่อยทิ้งไว้เปล่า ๆ
- สนใจธุรกิจอสังหาฯ แต่ไม่อยากเริ่มใหญ่ จึงเลือกใช้บ้านของตัวเองเป็นจุดเริ่มต้น
- อยากให้มีรายได้เสริมแบบ Passive Income โดยไม่ต้องลาออกจากงานประจำ
ด้วยเป้าหมายที่ชัดเจน บวกกับความตั้งใจจริง คุณพีทจึงเริ่มศึกษาตลาดพูลวิลล่าในหัวหินอย่างจริงจัง ก่อนจะตัดสินใจรีโนเวตบ้านทั้งหลังให้กลายเป็นที่พักสุดปัง ที่ตอนนี้ใคร ๆ ก็จองแน่นทุกเดือน
ขั้นตอนเปลี่ยนบ้านธรรมดาเป็นพูลวิลล่า
บ้านธรรมดาก็กลายเป็นพูลวิลล่าทำเงินได้ ถ้ารู้จักวางแผนและปรับแต่งให้ตรงกับความต้องการของนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะในเมืองท่องเที่ยวยอดฮิตอย่างหัวหิน ที่พักสวย ๆ จองง่าย วิวดี มีสระส่วนตัว คือสิ่งที่นักท่องเที่ยวเสิร์ชหากันทุกวัน! มาดูกันว่า ถ้าอยากเปลี่ยนบ้านของคุณให้เป็นพูลวิลล่าทำรายได้ ต้องเริ่มยังไงบ้าง
-
ปรับปรุงและตกแต่งให้ตอบโจทย์นักท่องเที่ยว
- เน้น ความสะอาด + ฟังก์ชันครบครัน เช่น ห้องนอนหลายห้อง ห้องน้ำในตัว
- ทำให้มี สระว่ายน้ำ หรืออ่างจากุซซี่ เพื่อให้เป็นพูลวิลล่าแบบเต็มรูปแบบ
- เพิ่มความสะดวกด้วย เครื่องใช้ไฟฟ้า, Wi-Fi, เตาปิ้งย่าง, ห้องครัวพร้อมใช้
- ตกแต่งให้น่าถ่ายรูป มีมุม Instagrammable ยิ่งแชร์ ยิ่งได้ยอดจอง!
-
เลือกทำเล และตั้งราคาปล่อยเช่าให้เหมาะสม
- ถ้าอยู่ในโซนท่องเที่ยว เช่น ใกล้ทะเล ใกล้แหล่งกินเที่ยว หรือในย่านที่พักยอดนิยม (เช่น ซอยหัวหิน 112, เขาเต่า ฯลฯ) = มีแต้มต่อ!
- ตั้งราคาค่าเช่าโดยดูจาก:
- ความคุ้มค่าของที่พัก
- คู่แข่งในพื้นที่เดียวกัน
- ความต้องการของกลุ่มลูกค้า เช่น กลุ่มเพื่อน หรือครอบครัวใหญ่
- แนะนำให้ เริ่มราคากลาง ๆ ก่อน แล้วค่อยปรับตามรีวิวและความนิยม
-
ทำการตลาดให้คนเห็น และอยากจอง
- สร้าง เพจ Facebook / IG / TikTok พร้อมรูปภาพสวย ๆ และข้อมูลครบถ้วน
- ลงประกาศในแพลตฟอร์มดัง เช่น Airbnb, Booking, Traveloka, Agoda
- มีโปรโมชั่นช่วงเปิดตัว เช่น ส่วนลดวันธรรมดา / แถมอาหารเช้า
- อย่าลืมขอรีวิวจากลูกค้าจริงเพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือ และแชร์ลงโซเชียล!
ผลลัพธ์และรายได้จากการปล่อยเช่า
หลังจากลงมือปรับปรุงบ้านธรรมดาให้กลายเป็นพูลวิลล่าตามแผนที่วางไว้ เจ้าของบ้านในเคสตัวอย่างนี้ก็ค่อย ๆ เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน ทั้งในแง่ของยอดจองที่แน่นขึ้น และรายได้ที่ไหลเข้าทุกเดือนแบบไม่ต้องรอให้ถึงฤดูท่องเที่ยวเท่านั้น มาดูกันว่า เมื่อแปลงบ้านเสร็จแล้ว ปล่อยเช่าจริง ๆ จะได้ผลตอบแทนแบบไหน:
รายได้เฉลี่ยต่อเดือนที่ได้จริง
- ราคาค่าเช่าเฉลี่ย/คืน: อยู่ที่ประมาณ 6,000–10,000 บาท (แล้วแต่ช่วงไฮ/โลว์ซีซั่น)
- จำนวนคืนที่ปล่อยเช่าได้เฉลี่ย/เดือน: ประมาณ 15–20 คืน
- ดังนั้นรายได้รวมเฉลี่ยต่อเดือนอยู่ที่ประมาณ
90,000 – 200,000 บาท/เดือน (ขึ้นอยู่กับทำเลและการทำตลาด) - เดือนพีกอย่างช่วงวันหยุดยาวหรือหน้าร้อน ยอดอาจแตะหลัก 2 แสนบาท/เดือน ได้ไม่ยาก
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับเงินลงทุน
- เจ้าของบ้านในเคสนี้ ลงทุนปรับปรุงประมาณ 1.2 ล้านบาท
(รวมค่าตกแต่ง, ทำสระ, ซื้อเฟอร์นิเจอร์, ของใช้ ฯลฯ) - จากรายได้เฉลี่ยที่เข้ามาต่อเดือน ใช้เวลาเพียง 8–12 เดือน ก็เริ่มแตะ จุดคุ้มทุน (Break-even point)
- หลังจากนั้นคือ “กำไรล้วน” ที่เกิดจากการบริหารจัดการและดูแลต่อเนื่อง
เคล็ดลับที่เจ้าของบ้านอยากแชร์
หลังจากผ่านประสบการณ์ตรงตั้งแต่การแปลงบ้านจนถึงการปล่อยเช่าและบริหารพูลวิลล่า เจ้าของบ้านเคสนี้ก็มีเคล็ดลับและข้อคิดดี ๆ ที่อยากฝากไว้ให้กับคนที่กำลังเริ่มต้น หรือกำลังลังเลอยู่ค่ะ
-
คิดให้รอบก่อนลงทุน
- อย่าคิดแค่ทำบ้านสวยแล้วคนจะมาเอง ต้องวางแผนตั้งแต่ งบประมาณ – การตลาด – กลุ่มเป้าหมาย
- สำคัญมาก: เผื่องบสำหรับสิ่งไม่คาดคิด เช่น ระบบน้ำเสีย, ซ่อมแซมฉุกเฉิน
-
ทำเลไม่ต้องติดทะเล…แต่ต้อง “เข้าถึงง่าย”
- ไม่จำเป็นต้องอยู่ริมทะเลเป๊ะ ๆ แต่ควร อยู่ใกล้ถนนหลักหรือแหล่งท่องเที่ยว
- ลูกค้าส่วนใหญ่จะชอบที่มีที่จอดรถ เดินทางสะดวก และหาของกินง่าย
-
ลูกค้าประทับใจ = รีวิวดี = จองซ้ำ
- ดูแลลูกค้าเหมือนเพื่อนมาเยี่ยมบ้าน เช่น มีบริการน้ำดื่ม ขนมเล็ก ๆ น้อย ๆ ต้อนรับ
- ทำความสะอาดให้เป๊ะ ที่นอนต้องนุ่ม ห้องน้ำต้องสะอาด
- อย่าลืม “ขอรีวิว” แบบนุ่มนวลหลังเช็กเอาต์ เช่น ส่งข้อความขอบคุณ + แนบลิงก์รีวิว
-
อย่าหยุดพัฒนาที่พัก
- คอยอัปเดตพื้นที่เล็ก ๆ น้อย ๆ เช่น เพิ่มไฟประดับ เพิ่มมุมถ่ายรูป หรือของตกแต่งใหม่ ๆ
- รีวิวและความเห็นจากลูกค้าคือไอเดียทอง เอามาปรับใช้ได้เสมอ
-
สื่อออนไลน์ = ตัวช่วยปัง
- ใช้โซเชียลให้เป็น! ลงภาพสวย ๆ บรรยายจุดเด่นให้น่าสนใจ
- ช่องทางยอดนิยม เช่น Facebook Page, TikTok, Line OA, Airbnb, Booking.com
- ถ้าทำเองไม่ถนัด อาจจ้างแอดมินหรือช่างภาพเป็นครั้งคราว คุ้มในระยะยาว
สรุป
จากเคสจริงที่เราเล่าให้ฟังกันไป บ้านหลังเล็ก ๆ ในหัวหินที่เคยเงียบเหงา กลับกลายเป็นพูลวิลล่าที่สร้างรายได้หลักแสนต่อเดือนได้อย่างไม่น่าเชื่อ สิ่งสำคัญไม่ใช่แค่ทำเล แต่คือการ “กล้าลงมือทำ” และ “วางแผนให้เป็น” ถ้าคุณมีบ้านว่างอยู่ หรือกำลังมองหาโอกาสในการลงทุน ลองพิจารณาแนวทางแบบนี้ดูนะคะ เพราะบางที “บ้านธรรมดา” ของคุณ อาจจะเป็น “พูลวิลล่าทำเงิน” หลังต่อไปก็ได้